คุณเคยนั่งรถไฟบ้างหรือยัง  รู้หรือไม่ว่าการเดินทางด้วยรถไฟในอินเดียเป็นการเดินทางที่สะดวกและปลอดภัยมากที่สุดใหนอินเดีย  วันนี้มาเล่าเรื่องการนั่งรถไฟในอินเดียกันบ้างครับ การนั่งรถไฟรอบนี้เป็นครั้งที่ 2 ในการเดินทางในอินเดีย โดยครั้งแรกคือเมื่อปี 2015 เป็นการเดินทางจาก Pune ไปเมือง Visakhapatnam  ระยะทาง 1500 กม. เดินทาง 25 ชม. ซึ่งเคยเขียนไว้ใน Blog เมื่อปี 2015 ตาม link นี้

                 สำหรับวันนี้จะเล่าเรื่องเมื่อปี 2017 เป็นการเดินทางจากเมืองบังกาลอร์ไปเมืองเชนไน ระยะทาง ประมาณ 300 กม. ถ้าเดินทางด้วยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง  ซึ่งบ่อยครั้งจะเดินทางด้วยวิธีนี้ แต่เนื่องจากถนนในอินเดียไม่ได้ดีนักในทุกพื้นที่  ตรงกันข้ามกับรถไฟในอินเดีย ที่เป็นแบบรางคู่ และเป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมในอินเดีย ราคาไม่แพงและใช้เวลาไม่ต่างกับการเดินทางด้วยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง  ออกเดินทาง 17:00 จากบังกาลอร์ โดยหยุดพักแวะ1 สถานี  ระหว่างทาง และถึงจุดหมายปลายทางที่เชนไน ประมาณ 21:00

                         โดยทริปเดินทางรอบนี้ มีเพื่อนร่วมทางเป็นคนอินเดีย เดินทางด้วยอีกเช่นเคย ถ้าถามว่าให้เดินทางคนเดียวด้วยรถไฟ ถ้าเป็นระยะทางสั้นๆ และเรานั่งในชั้นโดยสารที่คนไม่หนาแน่น ผมยังคิดว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกและได้รับอรรถรสที่แตกต่างจากการนั่งรถยนต์

เดินทางมาถึงสถานีรถไฟในบังกาลอร์ประมาณ สามโมงเย็น มาถึงสถานีโดยมีตั่วรถไฟที่สั่งจองตั่วออนไลน์มาเรียบร้อยแล้ว ค่าโดยสารประมาณ 1000 รูปี ถือว่าถูกกว่าเดินทางด้วยเครื่องบิน low cost ไม่มากนัก ถ้าเดินทางด้วยเครื่องบินใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง แต่รวมระยะเวลาไปที่สนามบินอีก 1 ชั่วโมง รวมๆก้อ 2 ชั่วโมง เหมาะสำหรับในกรณีที่รีบด่วน ซึ่งบ่อยครั้งผมก้อต้องเดินทางด้วยเครื่องบินเช่นกัน

                         บรรยากาศภายในสถานีรถไฟบังกาลอร์ค่อนข้างโล่ง และดูไม่สกปรกมากนัก ถ้าเทียบกับหลายๆ ที่ ระว่างที่รอรถไฟ ก้อได้ถามเพื่อนร่วมทางคนอินเดีย เค้าเชิญชวนให้เดินทางมาพร้อมเค้าไปที่เชนไนหลายครั้ง มีการบอกว่ามีอาหารให้ทานในรถไฟ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน 

                 และแล้วรถไฟที่รอก้อมาถึงเป็นรถไฟที่เห็นได้บ่อยๆ แต่ขบวนที่จะเดินทางวันนี้ถือว่าเป็นรถด่วน เนื่องจากจะหยุดแวะแค่ 1 สถานีก่อนไปถึงเชนไน  และที่สำคัญมีอาหารบริการรวมในค่าตั่วรถไฟตลอดการเดินทาง

เพื่อนร่วมทางคนอินเดียในบังกาลอร์ ค่อนข้างมีพอสมควร เนื่องจากรถไฟหยุดแค่ 1 สถานี นั้นคือ ส่วนใหญ่ทุกคนจะมีเป้าหมายคือเมืองเชนไน แสดงว่าขบวนรถนี้มีผู้โดยสารเพียงพอรองรับค่าใช้จ้ายที่จะขนคนจากเมืองบังกาลอร์ (เมืองหลวงของรัฐ Karnataka) ไปยังเมืองเชนไน (เมืองหลวงของรัฐ Tamil Nadu) 

               และแล้วเราก้อขึ้นไปบนรถไฟ ดูภาพที่นั่งโดยสารภายในรถไฟ เป็นรถแบบนั่งเบาะปรับนอนได้ เหมาะสำหรับการเดินทาง 5 ชั่วโมง มีแถวละ 4 ที่นั่ง ที่พิเศษคือขบวนนี้จะมีอาหารเสิร์ฟตลอดการเดินทาง ไม่ต้องหาอาหารเพิ่ม หรือซื้อเพิ่มในขบวนรถไฟ

และแล้วอาหารชุดแรกก้อมาเสิร์ฟ  เป็นของว่างขนบขบเคี้ยวก่อน เป็นถั่ว และขนมทานเล่น   พอผ่านไปอีกสัก 1 ชั่วโมงก้อเป็นอาหารมื้อหลัก เป็นข้าว โรตี แพง และมีน้ำส้มเสิร์ฟ

                         ได้เวลาทานอาหารเย็น ทานจนอิ่ม ผ่านไปครึ่งทาง 2 ชั่วโมงครึ่งอย่างรวดเร็ว รถไฟจอดสถานีแรก อยู่บริเวณช่วงเมืองเวลลอร์  มีคนขึ้นและลงจากรถไฟบางส่วน พอออกเดินทางต่อไปอีกสักพัก มีอาหารมาเสิร์ฟอีกรอบเป็นไอศกรีม หลังอาหารมื้อหลัก ถือเป็นของหวานปิดท้าย ถ้ารวมค่าอาหารตลอดการเดินทางไม่น่าจะต่ำกว่า 200-300 รูปี ซึ่งถือว่าสะดวกและคุ้มค่าในการเดินทาง ถือว่าเป็นการทำตลาดที่ถูกใจคนอินเดีย นั้นคือ ให้ความรู้สึกถูก คุ้มค่า และสะดวกสบาย เข้าถึงผู้บริโภคอย่างแท้จริง  และแล้วเราก้อเดินทางถึง เชนไน ตอนประมาณ 3 ทุ่ม มีรถมารับและเดินทางเข้าที่พัก

                         ปิดท้ายการจบวันนี้ เพื่อนร่วมทาง และเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียหลังจากอยู่ในเชนไน ได้ 3-4 วัน เค้า ได้พาไปทานอาหารพม่าในอินเดียโดยนั่งรถมอเตอร์ไซด์ของคนอินเดีย ออกไปทานอาหารข้างทางในเชนไน

                        ปิดท้ายด้วยรูปมอเตอร์ไซด์ Royal Enfield ของคนอินเดีย เค้าบอกว่าซื้อมามือสอง ประมาณ 7 หมื่นรูปี ค่อนข้างได้รับความนิยมสำหรับคนอินเดีย ถ้าซื้อใหม่ๆ เลยก้อราคาแสนกว่ารูปีขึ้นไป

By thaitoindia

ThaiToIndia , คนไทยในอินเดีย , Thai in India , Bangalore , Bengaluru City, Technology , Asia Silicon Valley city , แบกกล้องส่องอินเดีย , Cycling

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *