ต่อจาก EP.1 หลังจากที่เราเดินถ่ายรูปอยู่แถว Gateway of India Mumbai ผมก้อสังเกตเห็นป้ายหนึ่ง มีธุรกิจของ ไทยมาเปิดที่ Mumbai ด้วย เพราะเห็นคำว่า Thai อยู่ที่ป้ายบนเสาไฟ
จากนั้นผมก้อเดินต่อไปเรื่อย ๆ ถ่ายภาพริม 2 ข้างทาง ตามถนนโดยมีเป้าหมายจากที่มีคนเล่าให้ฟังว่าต้องไปที่สถานีรถไฟที่เก่าแก่ของมุมไบ ที่บอกว่าสวยงามและเป็นมรดกโลก ได้รับการรับรองจาก Unesco นั้นก้อคือ
Chhatrapati Shivaji Terminus
ระหว่างสองข้างทางก่อนถึงสถานีรถไฟ เราก้อเก็บภาพผู้คน รถรา และจะเห็นว่าตอนปี 2017 มีการสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินมาถึงบริเวณ Gateway of India ไม่แน่ใจว่าในปี 2020 หรือปัจจุบันจะมีรถไฟฟ้าให้ได้ใช้หรือยัง ถ้าดูจากแผนที่ใช้เวลาการเดินด้วยเท้าประมาณ 30 นาที ผมใช้เวลาตลอดช่วงบ่าย เดินจาก Gateway of India ไปยัง Chhatrapati Shivaji Maharaj Terminus สถานีรถไฟเก่าแก่แห่งเมืองมุมไบ หรือชื่อเดิม คือ Victoria Terminus
อย่าพลาดถ้าไป Mumbai คุณต้องเดินถ่ายรูปตามที่ผมแนะนำเส้นทางสายนี้
ในที่สุดก้อเดินมาถึง Unesco World Heritage Site สถานีรถไปที่เก่าแก่และทรงคุณค่าแห่งมุมไบ รูปทางขวามือคือถ่ายหน้าสถานีรถไฟ ส่วนรูปซ้ายคือเดินตามถนนมาก่อนถึงสถานีรถไฟที่อยุ่ด้านขวามือ ส่วนตึกสูงด้านซ้ายมือ คือ Municipal Corporation of Greater Mumbai (MCGM) หรือสภาแห่งเทศบาลเมืองมุมไบ
จากนั้นก้อสักประมาณ 4 โมงเย็นผมก้อเดินทางจากจุดที่ถ่ายรูปตรงสถานีรถไฟไปยังจุดชมวิวที่สวยงามของมุมไบตอนใต้ นั้นก้อคือ Noriman Point
แวะนั่งตรงแหลม Noriman Point เพื่อถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดิน และดูแสงสีริมชายทะเลแนวทอดยาว
จบ Ep.2 Mumbai ไว้ด้วยรูปที่ Noriman Point และหลังจากนั้นก้อนั่งรถ Ola Cab กลับไปทานอาหารญี่ปุ่นแถวๆ ที่พัก แล้วถึงเวลากลางคืน ก้อออกถือกล้องไปถ่ายรูปที่ Gateway of India ในยามค่ำคืน ขอจบ Trip India 2 วัน 1 คืนด้วยรูปยามค่ำคืน เนื่องจากเช้าวันที่ 2 ผมไม่ได้ไปเที่ยวไหนนอกจากไปในห้างในเมืองที่ไม่ไกลจากสนามบิน เพื่อดูความแตกต่างของชีวิตคนทั่วๆไปใน Mumbai บอกได้เลยว่าถ้าไม่ใช่นักท่องเที่ยวคนมุมไบจะมีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างจะหรูหรามากกว่าทางใต้ที่บังกาลอร์เยอะเลย
ขอจบเรื่องเล่าเมืองมุมไบไว้แค่ 2 EP. ถ้าหากมีรูปหรือเรื่องราวอื่นๆ ในหลายๆ มุมจะมาเล่าในตอนต่อๆไป
ก่อนจบขอฝากบทความที่เคยเขียนเรื่องมุมไบไว้ใน Trueid -> แบกกล้องส่องมุมไบ 2 วัน 1 คืน
