Thai to India
30 มิ.ย.64 ที่เมืองไทยจะเปิดให้บริการ Disney+Hotstar วันนี้ผมเลยจะมารีวิวการใช้งาน Disney+Hotstar ที่ได้ใช้บริการมา 3 ปีในประเทศอินเดีย
ย้อนไปเมื่อ ปี 2018 ผม ได้เริ่มสมัครเป็นสมาชิกของ Hotstar India ในเวลานั้น เหตุผลหลักเลย คือ อยากหาฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษดูแบบถูกลิขสิทธิ์ ซึ่ง Hotstar เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในอินเดีย ให้บริการทางออนไลน์หรือทางสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม
ซึ่งราคาที่สมัครตอนนั้นคือ 999 รูปี ต่อปี หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 400-500 บาท ซึ่งถูกมากๆ สำหรับบอลทีมโปรดที่คุณจะได้ดูทุกอาทิตย์ 1 ฤดูกาล 38 แมตซ์ ทุกอาทิตย์ ไม่ว่าจะเดินทางหรืออยู่ที่ไหน สามารถดูได้ผ่านมือถือ แท๊บเลต หรือในคอมพิวเตอร์ ส่วนตัวผมเองใช้ดูผ่าน Amazon Fire TV Stick
ราคาของ Amazon Fire TV Stick ที่ผมซื้อเมื่อ 4 ปีก่อนสมัคร hotstar อยู่ที่ประมาณ 3000 รูปี ตอนนั้นพึ่งเปิดตัวใหม่ๆ ยังไม่มี 4K เหมือนในรุ่นปัจจุบัน โดยผมเป็นสมาชิก Amazon Prime สามารถดูหนังของ Amazon Prime ได้ และได้รับสิทธิ์ในการจัดส่งสินค้าที่ซื้อผ่าน Amazon ได้ไวกว่าสมาชิกปกติ
กลับมาที่เรื่องของ Hotstar นอกจากสามารถดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่างถูกลิขสิทธิ์แล้ว ในช่องของ Hotstar เองยังมีหนังมากมายให้ดูทั้งซีรีส์หรือภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ โดยในตอนนั้นเรื่องโปรดซีรีส์ที่ดูก็ คือ Game of Thrones
นอกจากนั้นยังมีซีรีส์อีกหลายเรื่องของ HBO Originals ไม่ว่าจะเป็น Silicon Valley , Sex and The City , West World , VEEP , WATCHMEN , Chernobyl , Grey’s Anatomy
หรือถ้าใครติดตามพวกช่อง Star World หรือ ช่องเคเบิ้ล อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Foxlife ,StarPlus , ช่อง Star Sport หรือแม้กระทั่งช่องพิเศษของ Hotster Special
ช่องกีฬานอกจากฟุตบอลอังกฤษแล้วยังมีช่องพวก Star Sport ต่างๆ ถ้ามีการถ่ายทอดสดพวกคริกเกตของอินเดียนี้ได้รับความนิยมมาก หรือจะเป็นถ่ายทอดสดเทนนิสอย่าง US Open , French Open , Formula1 , Badminton หรือพวก E-Sport
แพ็กเกจ AIS รายเดือน ราคาพิเศษ 35 บาท ดูเพิ่มอีก 1 เดือนฟรี จากราคาปกติ 799 บาทต่อปี
ThaiToIndia , คนไทยในอินเดีย , Thai in India , Bangalore , Bengaluru City, Technology , Asia Silicon Valley city , แบกกล้องส่องอินเดีย , Cycling